ครีมงาดำบดออร์แกนิค ผสมน้ำหวานดอกมะพร้าว 200 กรัม
ทาฮีนี (Tahini) เกิดจากการนำเมล็ดงาดำหรืองาดำมาบดจนเป็นเนื้อครีม นิยมใช้ในอาหารแอฟริกาเหนือ อาหารกรีก อาหารตุรกี และอาหารตะวันออกกลาง ถือเป็นเมนูแสนอร่อยที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย สามารถใช้ทดแทนเนยหรือมาการีน เพื่อใช้ทาขนมปังหรือแครกเกอร์ (spread) เป็นดิปปิ้งซอส (dipping sauce) แสนอร่อย ที่จะช่วยเพิ่มรสชาติให้กับเมนูของทานเล่น หรือใช้เป็นน้ำสลัดเพื่อสุขภาพเพื่อทดแทนมายองเนสหรือสลัดครีมอื่นๆ หรืออาจนำไปใช้เป็นส่วนประกอบหลักของฮุมมุส (Hummus) และอาหาร อื่นๆ ได้หลากหลาย
ครีมงาดำบดออร์แกนิคผสมน้ำหวานดอกมะพร้าวของ RAWGANIQ ผลิตจากเมล็ดงาดำออร์แกนิคแท้ 100% และเพิ่มความหวานด้วยน้ำหวานดอกมะพร้าวออร์แกนิค (organic coconut flower syrup) ซึ่งมีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ (Low GI) ลงไปเพียงเล็กน้อย ไม่แต่งกลิ่น ไม่แต่งรส ไม่เติมสี และไม่ใช้วัตถุกันเสีย มีเพียงรสชาติของเมล็ดงาดำออร์แกนิคคุณภาพสูงแท้ๆ จากธรรมชาติ ที่ให้ทั้งความอร่อยและคุณค่าสารอาหารสูงสุด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมระดับน้ำตาล หรือผู้ป่วยเบาหวานที่ชอบรสหวานเล็กน้อย
ทำไมต้อง RAWGANIQ
ครีมงาดำบดออร์แกนิคของ RAWGANIQ ผลิตจากเมล็ดงาดำออร์แกนิคนำเข้าจากอินเนอร์ มองโกเลีย ผสมกับน้ำหวานดอกมะพร้าวออร์แกนิคที่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ ผ่านกรรมวิธีการบดปริมาณน้อยด้วยเครื่องโม่หินแบบดั้งเดิม เพื่อควบคุมอุณหภูมิและรักษาระดับความร้อนระหว่างผลิต จนได้ครีมงาดำบดรสเนียนนุ่มที่มาจากธรรมชาติ 100% ไม่มีการแต่งกลิ่น ไม่แต่งรส ไม่เติมสี ไม่ใช้วัตถุกันเสียใดๆ มีเพียงรสชาติของเมล็ดงาดำออร์แกนิคคุณภาพสูงแท้ๆ ที่ให้ทั้งความอร่อยและคุณค่าสารอาหารสูงสุด
- ใช้วิธีการโม่หินแบบดั้งเดิมในปริมาณน้อย และใช้ความร้อนต่ำ
- ใช้ความหวานจากน้ำหวานดอกมะพร้าว ที่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ (Low GI)
- มีใบรับรองออร์แกนิคมาตรฐาน USDA และ EU (ดูใบรับรอง)
- เรานำเข้าสินค้าโดยตรงจากเกษตรกรในประเทศแหล่งกำเนิด การันตีทั้งเรื่องคุณภาพและราคา
- ผลิตและแบ่งบรรจุในโรงงานที่มีใบอนุญาตจากอ.ย. และได้รับการรับรองมาตรฐาน GHPs และ HACCP Codex (ดูใบรับรอง)
- เราเก็บรักษาวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์ในห้องควบคุมอุณหภูมิ
- สินค้าบรรจุสุญญากาศเพื่อคงความสดใหม่
- เลือกใช้เฉพาะบรรจุภัณฑ์ที่ปลอดภัยสำหรับอาหาร (food-grade) และผ่านการตรวจสอบแล้วว่าไม่มีสารตกค้างจากบรรจุภัณฑ์ (Migration test) เท่านั้น
- ผ่านการตรวจทางห้องปฏิบัติการ ทั้งด้านความปลอดภัยและคุณค่าสารอาหาร
ข้อมูลเพิ่มเติม:
งามีสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญก็คือ เซซามิน (sesamin) เซซาโมลิน (sesamolin) และเซซามอล (sesamol) ซึ่งช่วยเสริมภูมิต้านทานอวัยวะอย่าง ตับ สมอง และหัวใจ รวมถึงช่วยบำรุงผิวพรรณและเส้นผม เพราะเซซามิน ช่วยต้านอนุมูลอิสระที่ทำร้ายคอลลาเจนในชั้นผิว ทำให้ช่วยชะลอความแก่ สร้างภูมิคุ้มกันใหักับผิว และซ่อมแซมเซลล์ผิว
นอกจากนี้ งายังมีวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญ โดยเฉพาะแคลเซียมที่มีมากกว่านมวัวถึง 6 เท่า มีธาตุเหล็ก แมกนีเซียม สังกะสี ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม และทองแดง และยังมากด้วยวิตามินบีชนิดต่างๆ ซึ่งดีต่อระบบประสาท ช่วยทำให้นอนหลับ ร่างกายกระฉับกระเฉง พร้อมกันนั้นยังมีสารบำรุงประสาทด้วย และวิตามินอีเป็นตัวแอนติออกซิแดนท์ที่ช่วยต้านมะเร็ง
งาเป็นแหล่งที่มาของกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูงถึง 80% ประกอบด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 โอเมก้า 6 กรดโอเลอิก และกรดไลโนเลอิก ซึ่งช่วยลดคอเลสเตอรอล ป้องกันหลอดเลือดแข็งตัวและหลอดเลือดตีบ ช่วยให้ระบบหัวใจแข็งแรง รวมถึงบำรุงผิวพรรณให้ชุ่มชื้น และบำรุงผม
วิธีรับประทาน:
- ใช้เป็นซอสสำหรับจิ้ม (dipping sauce) หรือเป็นน้ำสลัด
- ใช้แทนเนยหรือมาการีน สำหรับทาขนมปัง แครกเกอร์ หรือใส่ในขนมอบและเบเกอรี่
- ใช้เป็นส่วนประกอบหลักในการทำฮุมมุส (hummus)
- ใช้ประกอบอาหาร และของหวานต่างๆ
ที่มา:
https://whfoods.com
https://authoritynutrition.com
https://draxe.com
https://nutritionfacts.org
https://medthai.com
https://health.kapook.com