ทำไมต้อง RAWGANIQ

เมล็ดแฟลกซ์สีทองออร์แกนิคของ RAWGANIQ นำเข้าโดยตรงจากกลุ่มเกษตรกรที่ทำการเพาะปลูกแบบเกษตรอินทรีย์มาหลายสิบปีตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ ในอินเนอร์ ​มองโกเลีย (Inner Mongolia) ซึ่งมีสภาพอากาศหนาวเย็น เหมาะแก่การเพาะปลูกต้นแฟลกซ์ ไม่ใช้สารเคมีและยาฆ่าแมลงใดๆ และปราศจากมลพิษ

• มีใบรับรองออร์แกนิคมาตรฐาน USDA และ EU (ดูใบรับรอง)
• เรานำเข้าสินค้าโดยตรงจากเกษตรกรในประเทศแหล่งกำเนิด การันตีทั้งเรื่องคุณภาพและราคา
• ผลิตและแบ่งบรรจุในโรงงานที่มีใบอนุญาตจากอ.ย. และได้รับการรับรองมาตรฐาน GHPs และ HACCP Codex (ดูใบรับรอง)
• เราเก็บรักษาวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์ในห้องควบคุมอุณหภูมิ
• สินค้าบรรจุสุญญากาศเพื่อคงความสดใหม่
• เลือกใช้เฉพาะบรรจุภัณฑ์ที่ปลอดภัยสำหรับอาหาร (food-grade) และผ่านการตรวจสอบแล้วว่าไม่มีสารตกค้างจากบรรจุภัณฑ์ (Migration test) เท่านั้น
• ผ่านการตรวจทางห้องปฏิบัติการ ทั้งด้านความปลอดภัยและคุณค่าสารอาหาร

เมล็ดเจียของ RAWGANIQ นำเข้าโดยตรงจากประเทศเปรู มีใบรับรองออร์แกนิคทั้ง USDA และ EU โดยเป็นเมล็ดเจียที่ปลูกอยู่บนเทือกเขาแอนดีส (Andes Mountains) ปราศจากสารเคมี ยาฆ่าแมลงและมลพิษ ด้วยกรรมวิธีแบบดั้งเดิมเฉกเช่นเดียวกับที่ชาวแอซเท็กและชาวมายาปลูกเมื่อหลายพันปีก่อน ซึ่งเป็นกรรมวิธีที่เราเชื่อว่าให้กำเนิดเมล็ดเจียที่มีคุณภาพดีที่สุดในโลก ไม่ใส่วัตถุกันเสีย หรือวัตถุปรุงแต่งอาหารใดๆ มีเพียงคุณค่าที่มาจากธรรมชาติล้วนๆ

• มีใบรับรองออร์แกนิคมาตรฐาน USDA และ EU (ดูใบรับรอง)
• เรานำเข้าสินค้าโดยตรงจากเกษตรกรในประเทศแหล่งกำเนิด การันตีทั้งเรื่องคุณภาพและราคา
• ผลิตและแบ่งบรรจุในโรงงานที่มีใบอนุญาตจากอ.ย. และได้รับการรับรองมาตรฐาน GHPs และ HACCP Codex (ดูใบรับรอง)
• เราเก็บรักษาวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์ในห้องควบคุมอุณหภูมิ
• สินค้าบรรจุสุญญากาศเพื่อคงความสดใหม่
• เลือกใช้เฉพาะบรรจุภัณฑ์ที่ปลอดภัยสำหรับอาหาร (food-grade) และผ่านการตรวจสอบแล้วว่าไม่มีสารตกค้างจากบรรจุภัณฑ์ (Migration test) เท่านั้น
• ผ่านการตรวจทางห้องปฏิบัติการ ทั้งด้านความปลอดภัยและคุณค่าสารอาหาร

ข้อมูลเพิ่มเติม:

สำหรับคนที่มีปัญหาความดันโลหิตสูง คอเลสเตอรอลในเลือดสูง หรือเป็นกลุ่มเสี่ยงที่อาจจะเป็นมะเร็งระบบทางเดินอาหารนับว่าเป็นกลุ่มแรกที่ควรหันมาสนใจกับเมล็ดแฟลกซ์ เพราะไฟเบอร์ที่อยู่ในเมล็ดแฟลกซ์มีส่วนช่วยล้างลำไส้และรักษาสมดุลของระบบขับถ่าย ดังนั้นการรับประทานเมล็ดแฟลกซ์จึงช่วยล้างลำไส้ให้สะอาดลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็ง และไฟเบอร์ที่อยู่ในเมล็ดแฟลกซ์จะช่วยดักจับไขมันในอาหาร ทำให้ลดคอเลสเตอรอลได้ในอีกทางหนึ่ง

เมล็ดแฟลกซ์ยังอุดมด้วยกรดอัลฟาลิโนเลนิกหรือเอแอลเอ (alpha-linolenic acid : ALA) ซึ่งเป็นกรดไขมันจำเป็นที่ร่างกายใช้สร้างกรดไขมันโอเมกา-3 โดย ALA ช่วยลดความข้นและหนืดของเลือด จึงลดความเสี่ยงต่อภาวะหัวใจพิบัติและโรคหลอดเลือดสมอง เมล็ดแฟลกซ์ยังช่วยลดคอเลสเตอรอลเพราะมีเส้นใยอาหารชนิดละลายน้ำมาก ฤทธิ์ต้านอักเสบของเมล็ดแฟลกซ์อาจช่วยรักษาอาการอื่นๆ อีกได้หลายอย่าง ตั้งแต่สิวจนถึงหอบหืด และยังมีผลพลอยได้จากสารโอเมก้า 3 คือมีส่วนช่วยบำรุงผิวพรรณ เส้นผมและเล็บให้แลดูมีสุขภาพดีได้

แฟลกซ์ซีดสีทองเหมาะในการนำไปใช้เป็นส่วนผสมในอาหาร เนื่องจากสีที่อ่อนกว่าแฟลกซ์ซีดสีน้ำตาล ทำให้ขนมหรืออาหารยังคงดูน่ารับประทานและสีไม่เปลี่ยน

วิธีรับประทานเมล็ดแฟลกซ์สีทอง:

นำเมล็ดไปบดเป็นผงก่อน แล้วจึงนำไปใส่อาหาร โยเกิร์ต ซีเรียล กราโนล่า หรือขนม (หมายเหตุ: เนื่องจากร่างกายไม่สามารถย่อยสลาย และดูดซึมสารอาหารจากเมล็ดแฟลกซ์แบบเต็มเมล็ดได้ จึงควรบดเป็นผงก่อนรับประทาน)

วิธีรับประทานเมล็ดเจีย:

ผสมเมล็ดเจีย 1-2 ช้อนโต๊ะ ลงในเครื่องดื่ม สมูทตี้ น้ำผลไม้ ของหวาน นม น้ำเต้าหู้ ซีเรียล โยเกิร์ต โอ๊ตมีล หรือโรยใส่อาหารที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบ แช่ทื้งไว้อย่างน้อย 15 นาที เพื่อให้เมล็ดเจียพองตัวก่อนรับประทาน หรือนำไปทำเป็นพุดดิ้งเมล็ดเจีย (สำหรับผู้เริ่มทาน ควรเริ่มที่ 2-3 ช้อนชาต่อวันสักระยะ หากไม่มีอาการท้องอืด จึงสามารถเพิ่มปริมาณได้)

ที่มา:                          

https://whfoods.com

https://authoritynutrition.com

https://draxe.com

https://nutritionfacts.org

https://ifit4health.com